วันที่ 25 พ.ย.68 ปัตตานียังคงเผชิญวิกฤตน้ำท่วมครั้งใหญ่ หลังฝนถล่มหนักต่อเนื่องตั้งแต่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา ผนวกกับมวลน้ำจำนวนมหาศาลจากตอนเหนือของ จ.ยะลา ทั้งน้ำป่า น้ำฝน และน้ำหลากที่ไหลลงสู่แม่น้ำปัตตานี ส่งผลให้ระดับน้ำพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนเอ่อทะลักล้นตลิ่งจนน้ำแผ่เข้าท่วมทั้งเมืองแบบไม่ทันตั้งตัว ปีนี้น้ำกระจายเปลี่ยนทิศทางท่วมไปบ้างบางพื้นที่
แม้วันนี้ปริมาณฝนจะเริ่มเบาบางลง แต่สถานการณ์ในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี ซึ่งเป็นหัวใจเศรษฐกิจของจังหวัด ยังคงวิกฤตหนัก น้ำจากแม่น้ำปัตตานีพังแนวป้องกันก่อนทะลักเข้าท่วมถนนแทบทุกเส้น ทั้งถนนพิพิธ กะลาพอ ฤาดี ปรีดา อุดมวิถี รามโกมุท ยะรัง นาเกลือ และปัตตานีภิรมย์ เมืองทั้งเมืองกลายเป็นเกาะกลางน้ำ ระดับน้ำสูงเฉลี่ย 40–50 ซม. รถเล็กหมดสิทธิ์สัญจร
ร้านค้า–บ้านเรือนในย่านเศรษฐกิจต้องปิดกิจการกันระนาว น้ำมาไวแรงจนหลายร้านไม่ทันเก็บของ ข้าวของเสียหายจำนวนมาก รถจักรยานยนต์ของชาวบ้านจำนวนมากจมน้ำ เพราะย้ายหนีไม่ทัน
สถานการณ์โดยรวมยังไม่นิ่ง เพราะมวลน้ำจากยะลายังคงไหลสมทบลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากอำเภอบันนังสตา กรงปีนัง และพื้นที่ตอนบนอีกหลายอำเภอ ทำให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยต้องติดตามสถานการณ์แบบนาทีต่อนาที พร้อมประกาศเตือนประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางน้ำลึก และเก็บของขึ้นที่สูงตลอดเวลา
ขณะเดียวกัน พื้นที่รอบนอกอย่าง อ.หนองจิก อ.ยะรัง อ.ยะหริ่ง อ.สายบุรี อ.ปะนาเระ และ อ.แม่ลาน ยังคงรับน้ำจากต้นน้ำยะลาอย่างต่อเนื่อง หลายจุดท่วมสูงจนชาวบ้านต้องอพยพออกมาใช้ชีวิตในเต็นท์ริมถนนเป็นการชั่วคราว
ด้านการช่วยเหลือ ขณะนี้หลายชุมชนในปัตตานีได้ร่วมกันตั้งครัวช่วยเหลือผู้ประสบภัย กระจายตามจุดต่างๆ เพื่อปรุงอาหารกล่อง ส่งต่อให้ประชาชนในชุมชนที่ถูกตัดขาดจากเส้นทาง หรือครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบรุนแรง โดยพยายามครอบคลุมให้มากที่สุดเท่าที่กำลังจะเอื้ออำนวย
เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองปัตตานีเผยว่า แม้สถานการณ์ยังไม่นิ่ง แต่ทุกฝ่ายกำลังเร่งช่วยเหลืออย่างเต็มความสามารถ พร้อมเฝ้าระวังมวลน้ำก้อนใหญ่ที่ยังคงมุ่งหน้าสู่ใจกลางเมืองปัตตานีในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า
