สสจ.ระยองแจงยิบ เคสหนุ่ม 18 ถูกงูพิษกัด ยัน รพ.ตรวจติดตามอาการตามแนวทางการรักษา

นพ.สุรวิทย์ ศักดานุภาพ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระยอง กล่าวถึงกรณีมีข่าวผู้ป่วยโดนงูพิษกัด แต่โรงพยาบาลให้เพียงยาปฏิชีวนะกับยาแก้ปวด และให้ผู้ป่วยกลับบ้าน รุ่งเช้าหายใจไม่ออก ลืมตาไม่ขึ้น ตรวจเลือดพบโดนงูพิษกัด ว่า จากการตรวจสอบข้อมูลกับผู้อำนวยการโรงพยาบาล พบว่าการเสนอข่าวดังกล่าวคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง ทำให้เกิดความเข้าใจผิดต่อโรงพยาบาลอย่างมาก
นพ.สุรวิทย์ กล่าวว่า ผู้ป่วยชาย อายุ 18 ปี รายนี้ ได้มารับบริการที่ห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลวังจันทร์ เมื่อวันที่ 7 พ.ค.เวลา 02.20 น.ให้ประวัติว่าถูกงูกัดตอน 01.40 น.ไม่ทราบชนิดของงู แพทย์ตรวจพบรอยแผลถลอกที่นิ้วก้อยมือขวา ไม่บวม ไม่มีอาการของพิษทางระบบประสาทและระบบเลือด ตรวจวัดสมรรถภาพการหายใจและตรวจเลือดดูความผิดปกติที่เกิดจากพิษงู ตามแนวทางการดูแลรักษาผู้ป่วยถูกงูพิษกัดของกรมการแพทย์

ซึ่งผลการตรวจทั้งหมดปกติ ได้ให้ผู้ป่วยนอนสังเกตอาการประมาณ 2 ชั่วโมง จนถึงเวลา 04.15 น.ยังไม่พบอาการผิดปกติ จึงให้ยาปฏิชีวนะและยาแก้ปวด พร้อมทั้งอนุญาตให้กลับบ้านได้ โดยนัดให้มาพบแพทย์ที่ห้องฉุกเฉินในตอนเช้า เพื่อติดตามอาการและตรวจเลือด ดูความผิดปกติที่เกิดจากพิษงูอีกครั้ง

นพ.สุรวิทย์ กล่าวต่อว่า ช่วงเช้าแม่สังเกตว่า ผู้ป่วยมีหนังตาตก กลืนลำบาก ดูซึมลง จึงพามาโรงพยาบาล เวลา 08.14 น.ผู้ป่วยพูดคุยได้ แจ้งว่ามีอาการปากชา ลิ้นชา ประมาณ 06.00 น.แพทย์ตรวจร่างกายพบว่า สมรรถภาพการหายใจปกติ ความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือดปกติ มีอาการหนังตาตก ซึ่งเป็นอาการแสดงของพิษทางระบบประสาท

จึงวินิจฉัยว่า ถูกงูที่มีพิษทางระบบประสาทกัด และใส่ท่อช่วยหายใจป้องกันปัญหาเรื่องกล้ามเนื้อหายใจอ่อนแรง พร้อมทั้งประสานส่งต่อโรงพยาบาลระยอง เพื่อให้เซรุ่มต้านพิษ และเข้ารับการรักษาใน ICU โดยโรงพยาบาลระยองได้ให้เซรุ่มต้านพิษทางระบบประสาท 1 โดส เมื่อ 00.00 น.คืนที่ผ่านมา

อาการล่าสุด ผู้ป่วยสัญญาณชีพปกติ ยังคงใส่ท่อช่วยหายใจอยู่ในห้องไอซียูเพื่อติดตามอาการอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ โรงพยาบาลจะได้มีการสื่อสารกับญาติและนายจ้างของผู้ป่วยเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องต่อไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *